ทำนารายได้ปีละล้านบาท

"ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ" ได้ยินคำนี้มาตั้งแต่จำความได้ แต่ยังไม่เคยได้ยินว่าชาวนาคนไหนทำนาแล้วได้ครั้งละเป็นล้าน สามารถมีเงินเดือนเฉลี่ยแล้วเทียบเท่ากับ คนที่ทำงานต่ำแหน่งสูงๆ ส่วนใหญ่เราจะได้ยินเรื่องหนี้สินจากการทำนา อาจจะมีหลายสาเหตุ ที่เป็นปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นวิธีคิด วิธีการลงมือทำ ตลอดจนความเชื่อที่ถ่ายทอดต่อกันมา เป็นต้นว่า พ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตายายเคยพาทำมาแบบนี้ก็ต้องทำตาม สุดท้ายก็เป็นผลที่ไม่น่าพอใจ ก็หันไปพึ่งพาปัจจัยภายนอก และจำเป็นที่จะต้องลงทุนเพิ่ม ซึ่งส่งผลกระทบหลายต่อหลายอย่างตามมา ที่เห็นชัดคือหนี้สิน และสุขภาพ

ในมุมมองของผู้เขียน คิดว่าข้าวเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ทุกๆที่ ปลูกง่าย โตเร็ว ดูแลรักษาก็ไม่ต้องยุ่งอยาก ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมี ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลง แต่เราก็หันมาึ่งพาตัวเอง ทรัพยากรธรรมชาติยังมีความสมบูรณ์อยู่มาก ถ้าเทียบกับหลายๆประเทศ องค์ความรู้ต่างๆด้านสมุนไพรในแขนงต่างๆมีเยอะแยะมากมาย ก็ลองนำมาปรับใช้ได้กับการเกษตรทุกรูปแบบ สิ่งที่น่าเป็นห่วง ปัจจุบันในยุคที่มีความผันผวนทางด้านต่างๆ จำเป็นจะต้องพึ่งตัวเองให้มากที่สุด รวมถึงกล้าเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำใหม่ "กล้าคิดต่าง ชีวิตก็เปลี่ยน" รวมถึงเป็นผู้ที่อดทน ช่างสังเกตุ จริงจังกับสิ่งที่ทำ เข้าใจตัวเองให้มากที่สุดก็จะทำให้ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่เหล่านั้น
ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน
คุณชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนาเงินล้าน (เจ้าของรางวัลคนนอกกรอบ คนค้นฅน อวอร์ดครั้งที่ 2) เจ้าของที่นากว่า 100 ไร่ มีรายได้ปีละล้าน “ ใครว่าทำนาแล้วจนไม่จริงหรอก" สำคัญที่ต้องรู้จักใช้สมอง ไม่ใช่ทำนาแบบผู้จัดการนา มีมือถือเครื่องเดียว โทรสั่งทุกอย่าง มีนาเป็นของตัวเองอย่างเดียว ที่เหลือจ้างและซื้อ ทำนาอย่างนั้นล่ะจนแน่ นาก็จะไม่เหลือด้วย อย่างผมนี่ทำนาได้ปีละล้าน เก็บใบเสร็จไว้ให้ดูด้วย เผื่อใครว่าโม้ เห็นเป็นชาวนาหน้าดำอย่างนี้กำหนดเงินเดือนให้ตัวเองเดือนล่ะ หกหมื่น เมียหกหมื่น ลูกสามคน ส่งจนจบปริญญาโท เขาขายนาส่งลูกเรียน แต่ผมมีแต่จะซื้อนาเพิ่ม ” ชัยพร พรหมพันธุ์ เป็นชาวนา แต่เป็นชาวนานอกกรอบ ผู้แหกสูตรชีวิต และตำนานอันปวดร้าว ของชาวนาไทย ที่หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เป็นหนี้สินอมตะ ยิ่งทำยิ่งจน ด้วยการเป็นชาวนาคนเดียวในประเทศไทย ที่กำหนดเงินเดือนให้ตัวเอง เกือบเท่าเงินเดือนของ ส.ส. ในสภา เป็นชาวนา ที่ยิ่งทำยิ่งมั่งคั่ง มั่นคง ยิ่งทำนา ยิ่งมีนา และยิ่งทำนา ก็ยิ่งนำพาตัวเอง ไปสู่อิสรภาพ เสรีภาพ และความเป็นไท ขณะที่ชาวนาโดยส่วนใหญ่ ทำนาจนเสียนา ชัยพรเป็นชาวนาที่ไม่เคยขาดทุนจากการทำนา ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ขณะที่เพื่อนบางคน พากันขายนาล้างหนี้ ชัยพรกลับซื้อที่นาเพิ่ม จาก 20 ไร่ เป็น 100 ไร่ และในบางฤดูกาลผลผลิตที่ข้าวราคาดี เขาก็เป็นชาวนาเงินล้าน ขายข้าวได้ถึง 2 ล้านบาท ต่อปี ความมั่งคั่ง มั่นคงทั้งมวลนั้น เขาได้มันมาจากการทำนาโดยสุจริต ไม่เอาเปรียบดิน ไม่เอาเปรียบน้ำ ไม่ได้ทำนาบนหลังคน แต่มาจากการคิดต่าง ทำต่าง ไม่หลงไปกับกระแสของความโลภ ไม่เป็นชาวนาตามสั่งของเซลแมน การกล้า ก้าวพ้นออกจากความงมงายในการทำนาแบบพึ่งพิง ปุ๋ย ยา สารเคมี มาทำนาด้วยสมอง สองมือ สองขา และการไม่ยอมหยุดที่จะเรียนรู้ และคิดที่จะลดต้นทุนการผลิต ทำให้ ชัยพรเป็นชาวนา ที่มีรายได้ “สุจริต” ไม่น้อยกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ ของเงินลงทุน เป็นการพิสูจน์ว่า อาชีพปลูกข้าว ไม่ใช่อาชีพของคนจน คนหน้าต่ำ ไร้เกียรติ ไม่มีศักดิ์ศรี อย่างที่ถูกทำให้เชื่อกันมา ในกระแสของวิกฤติอาหารโลก และการล่าอาณานิคมทางการเกษตร เพื่อแสวงหาความมั่นคงทางอาหาร ท่ามกลางข่าวคราวมหกรรมการขายนาให้ต่างชาติ เพื่อล้างหนี้ ในห้วงเวลาที่อาชีพชาวนา กำลังถูกท้าทาย ว่าจะอยู่ หรือจะไปจากกลุ่มทุนใหญ่ระดับโลก ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนาตัวจริง แห่งบางปลาม้า คือ ชาวนานอกกรอบ ที่กำลังยืนหยัด เพื่อทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ว่า อาชีพนี้ยังเป็นอาชีพแห่งเนื้อนาบุญ เป็นความมั่นคง เป็นความหวัง และเป็นกระดูกสันหลัง ที่ “ไม่ผุ” ของชาติ ติดตามเรื่องราวของชาวนาผู้ได้รับรางวัลสาขาคนนอกกรอบ ในงานประกาศรางวัลคนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 2 ได้ในรายการคนค้นฅน วันอังคารที่ 24 และ 31 พฤษภาคม 2554 เวลา 22.50 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่>>
การกระตุ้น เห็ดกระด้าง (เห็ดบด. หรือเห็ดลม) ให้ออกดอกดีขึ้น
แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ด
โรคและแมลงศัตรูเห็ดที่เพาะในถุงพลาสติก
การใช้พลายแก้วกำจัดโรคเห็ด
ไรขาวใหญ่
การกำจัดไรเห็ด
ปัญหาการเพาะเห็ดฟาง
ราเขียวเพนนิซีเลียมและเพซีโลไมซีส
การเพาะเห็ดในโอ่ง
จุลินทรีย์กำจัดเพลี้ย
ราสีส้ม

สนใจผลิตภัณฑ์ คลิกที่นี่>>
ที่มา:กรมส่งเสริมการเกษตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น