การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยจากกากมันสำปะหลัง,การเพาะเห็ดฟาง



เป็นที่ทราบกันดีว่า เห็ดฟาง เป็นเห็ดที่คนนิยมบริโภคมานาน มีรสชาติดีคุณค่าทางอาหารสูง เป็นอาหารพวกผักแต่มีคุณค่าสูงกว่าผักพบได้ตามธรรมชาติข้างกองฟางที่มีความชื้น ปัจจุบันได้นำมาเพาะเพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ซ้ำยังสามารถเพาะได้ง่ายใช้วัสดุเศษเหลือทางการเกษตรมาเพาะได้ เช่น ฟางข้าว กากเปลือกถั่ว ไส้นุ่น ต้นกล้วย ผักตบชวา ทลายปาล์ม กากเปลือกมันสำปะหลัง มีวิธีการเพาะหลายรูปแบบ เช่น การเพาะแบบกองสูง การเพาะแบบกองเตี้ยประยุกต์ การเพาะในโรงเรือน การเพาะในเข่ง และช่วงฤดูฝนอุณหภูมิ ก็มีความเหมาะสมในการเพาะเห็ดฟาง
จึงขอนำการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยโดยใช้กากมันสำปะหลังและการเพาะเห็ดโดยใช้ตอซังฟางข้าว เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้สนใจได้นำไปเพาะเพื่อเป็นอาหารในครัวเรือน หรือเพาะเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ในครัวเรือนได้

วัสดุอุปกรณ์ในการเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ยจากกากมันสำปะหลัง/ตอซังฟางข้าว
1. กากมันสำปะหลัง ( กากดิน )
2. ไม้แบบขนาด 20+40+20 , 20+50+20 ซม. 20+70+20 ซม.
3. ไม้โครง ( ไม้ไผ่ผ่าซีก กว้าง 1 นิ้ว ยาว 1.60 เมตร
4. บัวรดน้ำ
5. น้ำสะอาดควรเป็นน้ำสระไม่เค็มจะดีที่สุด
6. อาหารเสริม ( มูลสัตว์แห้ง , ราละเอียด หรือ วัสดุอื่นที่หาได้ เช่น กากไส้นุ่น , จอกแห้ง ,
คายข้าว )
7. พลาสติกสำหรับคลุมกองเห็ด
8. EM/น้ำหมักชีวภาพ
9. ปูนขาว
10. ฟางสำหรับคลุมกอง
11. จอบ
วิธีการเพาะ

1. เตรียมแปลงเพาะโดยขุดตากดินยกแปลงเพื่อฆ่าเชื้อโรคตากทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน
ย่อยดินให้ละเอียดขนาดแปลง กว้าง 1 เมตร ยาวตามความต้องการ
2. นำกากมัน ( กากดิน ) มาบรรจุในไม้แบบอัดเป็นแท่งพอแน่นจากนั้นถอดไม้แบบ แล้วอัดแท่งกากมันเรียงในแปลงที่เตรียมไว้ห่างกันแต่ละแท่ง 10-15 ซม. ถ้าอากาศเย็นให้ห่างกันน้อย ถ้าอากาศร้อนให้ห่างกันมากขึ้น

3. ขณะอัดแท่งกากมัน ถ้าแห้งให้รดน้ำพอชุ่มไม่ให้แท่งพังแตก

4. อัดแท่งกากมัน อย่างน้อย แปลงละ 20 แท่ง เพื่อให้การควบคุมอุณหภูมิในแปลงไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
5. โรยอาหารเสริมระหว่างช่องว่างของแท่งกากมันบางๆ
6. โรยเชื้อเห็ดฟาง บนอาหารเสริม โดยเชื้อเห็ดฟางต้องนำมาขยำรวมกันก่อน อัตราการใช้ 1 ถุง ต่อ 2 ตารางเมตร (แล้วแต่ขนาดถุง) แล้วรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง

7. คลุมด้วยพลาสติกให้ชิดกองใช้พลาสติก 1 ผืนกลบชายพลาสติกด้วยดินให้สนิท
8. คลุมด้วยฟางแห้ง
9. ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน แล้วแต่ฤดูกาล
10. เส้นใยเห็ดจะเดินขาวฟูในกอง ให้ทำการตัดใย โดยใช้น้ำสะอาดผสม EM และ กากน้ำตารดบางๆ พอเส้นใยขาด
11. ขึ้นโครงโดยใช้ไม้ไผ่ปักโค้งห่างกันพอควรแล้วคลุมพลาสติกแบบเกยทับ 2 ผืน แล้วคลุมด้วยฟาง
12. หมั่นตรวจดูอุณหภูมิในกองเห็ด ถ้าร้อนจัดให้เปิดข้างกองตอนเช้าหรือเย็น ครั้งละ 5-10 นาที แล้วปิดตามเดิม
13. จากนั้นประมาณ 5-7 วัน ดอกเห็ดจะโตสามารถเก็บมาบริโภคและจำหน่ายได้

14. การเก็บดอกเห็ด ควรเก็บในช่วงเช้ามืดและเก็บเมื่อเห็ดขนาดดอกตูมหัวแหลมจะได้น้ำหนักดี แต่ถ้าจะเก็บเพื่อทำป่นให้เก็บดอกบานมาย่างไฟจะอร่อย
15. จะสามารถเก็บเห็ดได้ ประมาณ 3-5 วัน ก็จะหมดรุ่น จากนั้นให้เปิดกองรดน้ำพอชุ่ม ปิดไว้อีก 5-7 วันเห็ดจะเกิดดอก ให้เก็บอีก 1 รุ่น แต่ดอกเห็ดจะเกิดน้อย

16. หลังเก็บดอกเห็ดหมด นำเศษที่เหลือไปหมักทำปุ๋ยชีวภาพต่อไป หรือนำไปใส่ แปลงนา ไม้ผล แทนปุ๋ยเคมีได้ หรือถ้าเพาะในแปลงนาให้หยอดเมล็ดผัก แตง ถั่ว จะงอกงามดี
17. ถ้าใช้ฟางเพาะแนะนำให้ใช้ตอซังฟางข้าวจะให้ผลผลิตดีกว่าปลายฟาง โดยใช้การถอนทั้งรากแต่ฟางที่ใช้เพาะต้องแห้งสนิทไม่เคยผ่านความชื้นหรือโดนฝนมาก่อนจะเกิดเชื้อราเพาะเห็ดไม่ขึ้น โดยใช้ไม้แบบขนาดใหญ่ขึ้น ลักษณะเป็นสีเหลี่ยมคางหมู ขนาดฐานกว้าง 35-40 ซม. กว้าง 25-30 ซม. สูง 35-40 ซม. มีความยาว 1-1.5 เมตร ขั้นตอนการเพาะ
17.1 แช่ฟางให้ชุ่มประมาณ 1 ชม.
17.2 นำมากองใส่ไม้แบบในแปลงที่ขุดเตรียมไว้โดยวางด้านโคลนฟางออกด้านนอกสูง 3-4 นิ้ว จากนั้นโรยอาหารเสริมรอบขอบไม้แบบบนฟางหน้ากว้าง 2 นิ้ว โรยเชื้อเห็ดที่ขยำไว้แล้วบางๆ แล้ววางฟางทำชั้นต่อไปเหมือนชั้นที่ 1 ทำ 3-4 ชั้น ชั้นสุดท้ายโรยอาหารเสริมและเชื้อเห็ดให้เต็มหลังกอง
17.3 ปิดด้านบนด้วยฟางชุ่มหนา 1-2 นิ้ว ย้ายไม้แบบไปทำกองต่อไปห่างจากกองเดิม 10-15 ซม. จนเต็มแปลง ควรทำกองฟางอย่างน้อย 10 กอง ต่อ 1 แปลง เพื่อให้อุณหภูมิในกองพอเหมาะในการเกิดดอกเห็ด
17.4 คลุมด้วยพลาสติก คลุ่มด้วยฟางแห้งตรวจดูความชื้นในกอง ถ้าแห้งมากให้รดน้ำบนดินรอบแปลง 8-10 วัน ก็จะสามารถเก็บดอกเห็ดได้การเพาะด้วยฟางไม่ต้องตัดเส้นใบและทำโครงไม้ไผ่
17.5 หลังจากเก็บเห็ดหมด ฟางกองเห็ดสามารถนำไปกองทำปุ๋ยหมักใช้บำรุงดินต่อไป หรือนำไปเป็นวัสดุเพาะเห็นในถุงพลาสติกต่อไป
ลักษณะเชื้อเห็ดฟางที่ดี
1. มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยสอบถามจากผู้มีประสบการณ์เคยเพาะมาก่อน
2. ถุงเชื้อเห็ดต้องก้อนแน่น เส้นใยเดินเต็มก้อน
3. ไม่มีเชื้อราชนิดอื่นๆ เจือปนรวมทั้งหนอน แมลง ไร อยู่ในถุง
4. ไม่มีดอกเห็ดอยู่ในถุง เพราะเชื้อแก่เกินไปจะเกิดดอกน้อย
5. มีกลิ่นหอมของเห็ดฟาง
6. เชื้อเห็ดซื้อมาควรเพาะภายใน 7 วัน ถ้าเป็นเชื้อพร้อมเพาะควรเก็บรอไว้ในที่เย็นไม่ให้ ถูกแสงแดด
สิ่งจำเป็นในการเพาะเห็ดฟาง
- วัตถุดิบที่ใช้เพาะ - อาหารเสริม
- เชื้อเห็ด - สถานที่เพาะ
- ไม้แบบ - ผ้าพลาสติก
- บัวรดน้ำ
ปัจจัยที่สำคัญในการเพาะเห็ด
1. สภาพอากาศที่เหมาะสม
2. ความชื้น
3. แสงแดง
หมายเหตุ : - หน้าร้อนและหน้าฝนจะดี อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35-37 องศา
ช่วงเก็บผลผลิต อุณหภูมิ 30 องศา
- วัสดุเพาะบางชนิดอาจจะมีความร้อนควรระวังก่อนนำมาใช้เป็นวัสดุเพาะ

ที่มา:เรียนรู้ทางการเกษตรอำเภอแวงใหญ่
กับดักแมลงวัน
แมลงหวี่พาหะนำโรคราและไร ก้อนเห็ด
ทำนารายได้ปีละล้าน
การกระตุ้น เห็ดกระด้าง (เห็ดบด. หรือเห็ดลม) ให้ออกดอกดีขึ้น
แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ด
โรคและแมลงศัตรูเห็ดที่เพาะในถุงพลาสติก
การใช้พลายแก้วกำจัดโรคเห็ด
ไรขาวใหญ่
การกำจัดไรเห็ด
ปัญหาการเพาะเห็ดฟาง
ราเขียวเพนนิซีเลียมและเพซีโลไมซีส
การเพาะเห็ดในโอ่ง
จุลินทรีย์กำจัดเพลี้ย
ราสีส้ม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณสุพจน์ 082-711-9399 E- mail: Sup.hot@hotmail.com
ชื่อบัญชี สุพจน์ แวงภูลา
ธนาคารกรุงไทย สาขาศรีราชาบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 208-1-95042-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น